+ ภาพนี้ถ่ายตอนเย็นในฤดูหนาวปี 39 ที่แหลมปู่เจ้า
+ ใช้ฟิล์มของ kodak 200 จึงสามารถวัดแสงได้ แต่ก็ชดเชยแสงลงมาอีกประมาณ 1 สต๊อปเหมือนกันเพื่อให้เห็นลำแสงของพระอาทิตย์ได้ชัดเจน...ภาพนี้ไม่ได้ใช้ฟิลเตอร์ช่วย ไม่ได้ใช้ขาตั้งกล้อง แต่ใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่ต่ำมาก
+ ตำแหน่งที่ถ่าย ถ่ายบน ร.ล.กระบุรี ตอนที่เป็นประจำเรืออยู่...
+ แสงตอนนี้แหละที่เขาเรียกกันว่า *** twilight
+ มีไม่บ่อยครั้งที่เราจะได้เห็นพระอาทิตย์หลังจากที่ลับขอบฟ้าไปแล้ว ... แต่ยังทิ้งความงามของแสงสีทองให้เห็น ...
+ หลาย ๆ ท่านที่อยู่ในเมือง คงจะไม่เคยได้พบกับบรรยากาศแบบนี้ ... ก็เอามาฝากให้ชมกันครับ...
+ แม้แต่ตอนนี้ ตัวผมเองก็ไม่เคยได้เห็นแบบนี้ มาสิบกว่าปีแล้ว...
***http://en.wikipedia.org/wiki/Twilight
ให้คำจำกัดความของ twilight ดังนี้ครับ
Twilight : is the time before sunrise, or after sunset, when sunlight scattered in the upper atmosphere illuminates the lower atmosphere, and the surface of the Earth is between light and dark. Often confused with dusk, twilight is specifically defined as the period either side of night-time during which it is possible to conduct outdoor activities without the aid of artificial light.
+ ใช้ฟิล์ม kodak 200 ม้วนเดิมนั่นแหละ แต่ว่าเปิดรูรับแสงที่แคบมาก (จึงเห็นดวงอาทิตย์มีประกายถึง 6 แฉก) เนื่องจากอยากจะเก็บภาพของ คำว่า "ตะวัน" ให้ได้ แล้วก็ได้สมใจ ... นี่กระมังที่เขาเรียกว่าตะวันสีทอง
+ ตำแหน่งที่ถ่ายก็ ร.ล.กระบุรีลำเดิมครับ ... ถ่ายตอนประมาณ 7 โมงกว่า เพราะตัวเองต้องมาชักธง prep เพื่อเตรียมรับธงตอนเช้า
+ อย่างนี้แหละถึงทำให้ชอบฤดูหนาว เพราะฤดูหนาวทำให้เห็นพระอาทิตย์ ได้เต็มที่ ทุกรายละเอียด ทั้งเช้าและเย็น
+ ที่สำคัญชอบภาพนี้ตรงที่ ท้องน้ำนั้นเสมือนทาฉาบไปด้วยสีทอง มีระลอกคลื่นระยับให้เห็นแต่พองาม จริง ๆ แล้วภาพนี้ถ่ายไว้เป็นเซ็ตเลย...ประมาณ 5 - 6 ภาพ ถ่ายไว้มากเลย ทนไม่ได้เลยถ้าได้เห็นตะวัน กับ ทะเล เมื่อไหร่ต้องหลงไหลทันที...
+ เอามาฝากให้เพื่อน ๆ ชมกันครับ...
+ สำหรับภาพนี้ เก็บภาพที่เกาะอาดัง ปี 38
+ ไปราชการ สมทบกับ ร.ล.ตากสิน ตอนฝึกภาค คอบบร้าโกล์ด
+ *** เกาะอาดัง เป็นเกาะเล็ก ๆ ฝั่งอันดามัน.... พอพ่อแม่ออกไปหาปลา เด็ก ๆ ก็จะอยู่บ้านกันตามประสา...
+ ภาพนี้พอหยิบมาดูแล้ว มันเล่าถึงเรื่องราวของเกาะได้ทั้งเกาะเลย.. ผืนน้ำที่อยู่เบื้องหน้า กั้นเกาะกับแผ่นดินใหญ่ไว้...เรือประมงลำที่อยู่ถัดมาพึ่งจะต่อใหม่...
+ เด็กไทย ที่ไม่มีแสงสียั่วยุ มีแต่ธรรมชาติโอบล้อม... และบางครั้งก็ถูกหลงลืมจากสังคม ....ดวงตาที่ยังฉายแววอยากรู้อยากเห็น ปนกับความหวาดกลัว ทำให้รู้สึกถึงความแตกต่างของสังคมได้มากมาย... แต่ความไร้เดียงสานั้น ทำให้เกาะนี้ดูเป็นเกาะที่งดงามได้อย่างไม่ต้องเติมแต่ง
+ หาดทรายของที่นี่ละเอียด และขาวสะอาดตามาก ... ตอนถ่ายต้องใช้ โพลาไรซ์ฟิลเตอร์ ช่วยเพื่อตัดแสงสะท้อน...กันแสงเวอร์ไปในตัวด้วย
+ วันหนึ่ง ถ้ามีโอกาสจะกลับไปอีกแน่... หลาน ๆ ทั้งสองคน คงจะโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีของสังคมไปแล้วตอนนี้
*** หมู่เกาะอาดัง-รังวี นั้นอยู่ห่างจากเกาะตะรุเตาไปทางตะวันตก ประมาณ 40 กม. ประกอบด้วยเกาะที่สำคัญ 4 เกาะเคือ เกาะราวี ซึ่งเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุด รองลงมา คือเกาะอาดัง เกาะบาตอง และเกาะลิเป๊ะ นอกจากนี้ยังมีเกาะขนาดเล็กเช่น เกาะบิสสี เกาะกาตา (เกาะยาง) เกาะหินงาม เกาะจาบัง และเกาะบูหราด ลักษณะภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นป่าเขาสูงในบริเวณตอนกลางของเกาะส่วนใหญ่จะเป็นภูเขาหินเกรนิต มีหินควอร์ตไซต์และหินดินดานปะปนอยู่ประปราย โดยเฉพาะเกาะอาดังและเกาะราวี
เกาะอาดังเป็นเกาะที่สำคัญที่สุดโดยเฉพาะเป็นที่ตั้งของหน่วยงานย่อยของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา(หน่วยแหลมสนฯ) ภูมิประเทศมีลักษณะเป็นเกาะภูเขาโดยเฉพาะในบริเวณตอนกลางของเกาะ มียอดเขาสูงสุดประมาณ 703 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในหมู่เกาะอาดัง-ราวี มีแอ่งน้ำขนาดใหญ่หลายแห่งบนภูเขา มีนำตกและลำธารไหลตลอดปี ลักษณะของชายฝั่งรอบเกาะบางแห่งเป็นหน้าผาสูง มีพื้นที่เป็นที่ราบน้อยมาก แนวชายฝั่งเป็นอ่าวเล็กน้อยอยู่เรียงราย
++ หมู่เกาะอาดัง-ราวี อยู่ที่ จ.สตูล ครับ เกือบลืมบอก...
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ....www.navy34.com/board342550
Comments
Post a Comment